HeaderAd

Tuesday, June 24, 2014

หนังสือแนะนำ The Seed : Finding Purpose and Happiness in Life and Work by Jon Gordon (ปลูกเป้าหมาย เปลี่ยนความเบื่อหน่ายให้กลายเป็นความสุข)

Share it Please
"ชีวิตไม่ได้ให้สิ่งที่เราต้องการเสมอไป แต่ชีวิตให้สิ่งที่เราจำเป็นต้องมี"
จากหนังสือ The Seed




ขอเล่าย้อนกลับไป สมัยยังเป็นหนุ่มๆ การที่จะอ่านหนังสือแบบนี้ เล่าเรื่องประมาณนี้ไม่เคยมีความคิดในหัว ไม่เคยคิดจะเสียตังค์ไปซื้อมาด้วยซ้ำ เพราะอะไรนะเหรอ... หนังสือประเภทสำหรับคนหมดไฟ ใช้ชีวิตเหมือนไม่มีเป้าหมาย ถ้าจะให้เปรียบเทียบให้ชัด ก็เทียบได้กับหลายๆคนที่ตอนหนุ่มนะๆ กินเข้าไปเหอะๆ กินกี่มื้อก็ได้ กินเยอะแค่ไหนก็ได้ ตัวอ. อ่าง ของคำว่า "อ้วน" ยังไม่มีทางที่จะเข้ามาใกล้ๆ เหอะๆ แต่ตอนนี้นะเหรอ แค่มองอาหารแม่งที่ก็อ้วนแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ปก version ภาษาอังกฤษ


แล้วช่วงหนึ่งของชีวิตที่ผ่านเข้ามา...ทำให้ต้องการหนังสือประเภทนี้ ซึ่งช่วงเวลานั้นก็ประจวบเหมาะที่กับหนังสือ "The Seed : Finding Purpose and Happiness in Life and Work " แปลเป็นภาษาไทยพอดี เรื่องราวคร่าวๆ คือ พระเอกของเราเคยเป็นพนักงานที่ไฟแรงมากกกกก ผลงานยอดเยี่ยม แต่พอทำงานไปหลายปีเข้า ก็หมดไฟ ไม่มีกำลังใจในการทำงาน จนกระทั่งท่านหัวหน้า หรือ boss ให้ลาพัก 2 อาทิตย์ ไปคิดมาว่า จะออกไปทำงานที่อื่น หรือจะกลับมาตั้งใจทำงานให้เหมือนเดิม

ถ้าใครเคยเป็น หรือกำลังเป็นอยู่ ในจะเข้าใจ ประหนึ่งว่า อยู่เหตุการณ์กันเลยทีเดียว!!! เรื่องราวในหนังสือก็เล่าว่าพระเอกเดินทางที่ไหนบ้าง ในการตามหาแรงบันดาล หรือเป้าหมายในการมีชีวิต ได้พบเจอเรื่องราวต่างๆ ทำให้กลับมาคิดได้ทีละเล็ก ทีละน้อย เหมือนเก็บ Exp เพื่อ up Level เช่น กลับไปหาคุณพ่อคุณแม่, กลับไปที่มหาลัย ไปพาอาจารย์ ไปที่ต่างๆในอดีต และแน่นอน ต้องหาโอกาสไปสัมภาษณ์งานใหม่ด้วยซิ!!! ผมจะไม่ขอเล่าทั้งหมดนะครับ เดี๋ยวจะไปอ่านแล้วไม่สนุกกัน

อ่านจบแล้ว ถามว่าให้กำลังใจเพิ่มไหม.... ขอตอบว่า ทำให้สงบมากขึ้นแล้วกัน ไม่ตัดสินใจอะไรแบบด่วนๆ ใจร้อน เพราะว่าผมเคยอ่านหนังสือมาเยอะ บางเล่มอ่านจบแล้วนี้ คึกมาก ประหนึ่งกินกาแฟแรงๆมาเลยทีเดียว แต่เล่มนี้ไม่ใช่ ต้องขอบอกก่อนว่า ผู้เขียนได้สอดแทรกข้อคิดและแรงบันดาลใจไปตลอดทั้งเล่ม ทำให้อ่านได้ง่าย แต่พอดีว่าตอนที่อ่าน อารมณ์ไม่ได้อยู่ห้วงเวลาที่สามารถ ถอดข้อความที่ Jon Gordon พยายามซ่อนได้ทั้งหมดครับ

ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกอย่างไงมาแชร์กันนะครับบบบ

No comments:

Post a Comment

Followers

Tags