HeaderAd

Monday, October 13, 2014

4 ปีผ่านไป กับการกลับมาอ่านอีกครั้งกับ คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก (The Magic of Thinking BIG)

Share it Please
"ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่จะเป็นคนเล็ก"
ดิสราเอลลี



"เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก" นั่นคือความรู้สึกของผมจริงๆ เมื่อได้กลับมาหยิบ หนังสือคิดใหญ่ไม่คิดเล็ก มาอ่านกันอีกครั้ง แล้วก็เจอว่าตัวเองเคยเขียนเล่าความรู้สึกที่เคยได้อ่านไว้เมื่อตอนตุลาคมปี 2010...เดี๋ยวนะ นี้มัน ตุลาคม 2014 โอ้แม้เจ้า 4 ปีแล้วนี้!!! แล้วยังไปเจออีกว่า ผมไปโม้ไว้ว่าจะมาเขียนบทต่อไป หน้าแตกแบบนี้หมอไม่รับเย็บ แถมกระทืบซ้ำ!!!  ผมต้องขออภัยเป็นอย่างสูงที่เขียนไว้แต่ไม่ได้ทำตาม อ้าว เอาล่ะ วันนี้ผมจะมาเริ่มต้นกันใหม่ อีกครั้ง ♪ ♫ อีกสักครั้ง ♫ ♪ ฮ่าๆๆๆๆ


ทันที่หยิบหนังสือขึ้นมา สิ่งแรกที่รู้สึกเลยคือ "เก่า!" ฮ่าๆๆๆ จะบอกทำไม เก่าในที่นี้รวมไปถึงชนิดกระดาษที่ใช้พิมพ์สำหรับเล่มที่ผมมีด้วยครับ คือ ถ้าสังเกตุกันดูหนังสือสมัยนี้นะ จะใช้กระดาษถนอนสายตามาทำหนังสือกันเกือบหมดแล้ว เนื้อกระดาษจะไม่ใช่สีขาวๆ แต่หนังสือที่ผมมีเนี่ยสีขาวมากๆ ทำให้รู้สึกเลยว่า เวลาอ่านจะแสบตามากกว่า...ถึงตรงนี้ หลายคนงง นี้มันอะไรรรร ไม่เห็นจะมีเนื้อหาสักกะติ๊ดดดด เดี๋ยวจะรู้ว่าทำไมครับ 


คำนำ
แค่คำนำในหนังสือเล่มนี้ คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก ซึ่งพิมพ์มาแล้วตั้งแต่ปี 1959 (เก่าและดี ระดับตำนานอีกเล่ม) คำนำประมาณ 4 หน้า แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกเลือดลมสูบฉีดขึ้นมาได้!!!! เพราะว่าสิ่งที่ David J.Schwartz ได้กล่าวอย่างชัดเจนเลยคือ ขั้นตอนง่ายๆที่หนังสือเขียนขึ้น ไม่ใช่ทฤษฏีที่ยังไม่รับการพิสูจน์ มันไม่ใช่การเดาสุ่ม หรือผู้เขียนมโนขึ้นมา แต่หากเป็นแนวทางของสถานการณ์ในชีวิตจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว และเป็นขั้นตอนคนทั่วไปที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ผล

"คิดใหญ่ แล้วคุณจะได้ชีวิตที่ใหญ่ขึ้น คิดใหญ่แล้วคุณจะมีชีวิตที่ใหญ่ในด้านของความสุข จงคิดใหญ่และคุณจะมีชีวิตที่ใหญ่ในด้านหน้าที่การงาน และนี้คือ คำสัญญาที่ผู้เขียนได้เขียนไว้ในคำนำ"

แค่คำนำ ผมก็ลืมไปหมด กับความเก่าของหนังสือ และกระดาษสีขาวๆที่ไม่สบายเท่าหนังสือใหม่ๆ เพราะเนื้อหาและคุณภาพไม่ได้เก่าไปตามกาลเวลาเลย ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีหนังสือเล่มนี้อยู่ใกล้ๆ อย่าลืมหยิบขึ้นมาอ่านกันนะครับ




สรุปเนื้อหาจาก คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก
หนังสือเล่มนี้มีทั้งหมด 14 บท ผมจะพยายามบทสรุปใจความสำคัญของแต่ละบทให้ดีที่สุดนะครับ
บทที่ 1 ถ้าคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำได้ - ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะเกินความสามารถของมนุษย์ มันไม่เกี่ยวกับระดับการศึกษา ไม่เกี่ยวกับอายุ มันเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ คุณต้องเชื่อว่าคุณทำได้ คิดว่าต้องสำเร็จ อย่าคิดว่าจะล้มเหลว และย้ำเตือนตัวเองเสมอว่าคุณเก่งกว่าที่คุณคิด และสุดท้าย คิดใหญ่

บทที่ 2 รักษาโรคชอบแก้ตัวของคุณ - เพราะว่ามันคือ โรคแห่งความล้มเหลว ถ้าใครมีรับรองไม่เจริญ! พออ่านบทนี้จบ รู้สึกเลยว่า ทำไมบางทีเราชอบพกติดตัวไปจังเลยเนี่ย "ข้ออ้าง ข้ออ้าง แล้วก็ข้ออ้าง" ในบทนี้จะลงรายละเอียดของโรคยอดฮิตของผู้คน ในอ้างการว่าทำไมถึงทำไม่ได้ และวิธีเอาชนะมัน!

บทที่ 3 - สร้างความเชื่อมั่นในตนเอง และทำลายความหวาดกลัว - ขั้นแรกคุณต้องยอมรับมันก่อนว่าความกลัวมีตัวตนจริงก่อนที่คุณจะเผชิญกับความกลัวและเอาชนะมัน และคุณควรรู้ว่า ไม่มีใครที่เกิดมาพร้อมกับความมั่นใจ ข่าวดีคือ คุณเองก็สามารถฝึกความมั่นใจได้ครับ

บทที่ 4 วิธีการคิดใหญ่ - ข้อนี้อธิบายง่ายสุด คือ คุณต้องมองไปสิ่งที่เป็นไปได้ในอนาคตไม่ใช่สิ่งที่มันเป็นอยู่ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณจะขายที่ดินแห่งหนึ่ง ถ้าคุณไปบอกว่า พื้นที่ตรงมีเนื้อที่เท่าไร ตอนนี้ปลูกอะไรได้ผลเท่าไร แบบนี้คงขายยากครับ แต่ถ้าผมมองเห็นความเป็นไปได้และมีแผนการไปเสนอแบบนี้ซิ คนถึงพร้อมที่เชื่อไปกับผม

บทที่ 5 วิธีการคิดและฝันอย่างสร้างสรรค์ - ขั้นแรกที่สุด เราต้องเชื่อก่อนว่ามันเป็นไป เชื่อว่าเราทำได้ และจิตใจของคุณจะช่วยหาหนทางให้เองครับ ต่อจากนั้น เราก็ต้องตั้งถามหรือ คิดในสิ่งที่สร้างสรรค์ เช่น ถามตัวเองว่า "ทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร หรือจะทำให้ได้มากขึ้นได้อย่างไร?" เดี่ยวเราก็จะหาหนทางได้เอง ไม่ว่าจะเป็น ตัดงานที่ไม่สำคัญทิ้ง หรือปรังปรุงขั้นตอนบางอย่างในการทำงาน

บทที่ 6 คุณเป็นไปตามที่คิดว่าคุณเป็น - ใจความสำคัญของบทนี้ คือ สิ่งที่คุณคิด จะกำหนดสิ่งที่คุณทำ และสิ่งที่คุณทำจะส่งผลให้ผู้อื่นปฏิบัติกับคุณ ดังนั้น คุณต้องเคารพตัวเอง เชื่อว่าตัวคุณเองสำคัญ และกำลังทำสิ่งสำคัญ และคุณต้องคิดแบบนี้ทุกๆวัน

บทที่ 7 จัดการกับสภาพแวดล้อมของคุณ - เพราะจิตใจคุณก็จะเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมที่คุณป้อนให้กับจิตใจ ดังนั้นคุณต้องใส่ใจกับสิ่งที่ป้อนเข้าไป ไม่ว่าจะเป็น อาหารหรือเพื่อนที่คุณคบด้วย เพราะว่า เพื่อนคุณนี้ล่ะ อาจจะฉุดรั้งคุณก็ได้ แต่ถ้าคุณคบค้าสมาคมกับคนคิดใหญ่ล่ะก็ คุณจะไปได้ไกลและเร็วกกว่าเยอะ เพราะ คนคิดใหญ่ไม่หัวเราะความคิดใหญ่

ครึ่งนึงแล้ว เย้ๆ ฮ่าๆๆๆ

บทที่ 8 ทำให้ทัศนคติของคุณเป็นพวกเดียวกับคุณ - นั่นคือทำให้ตัวคุณเองมีทัศนคติที่จะนำคุณไปสู่ความสำเร็จ โดยมีหลักการที่สรุปได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ปลูกทัศนคติที่ว่า "ฉันกระตืนรือร้น", "คุณเป็นคนสำคัญ" และ "บริการอยู่เหนือสิ่งอื่นใด"

บทที่ 9 คิดให้ถูกต้องต่อคนอื่น - ยุคสมัยนี้เราไม่ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งโดยการ "ถูกลาก" แต่เป็นการ "ถูกยก" ขึ้นสู่ตำแหน่ง แสดงว่า จะต้องมีคนมาช่วยคุณ นั่นคือ การมีความคิดที่ถูกต้องต่อคนอื่นจะทำให้คนชอบและสนับสนุนคุณ และในบทนี้จะลงรายอะเอียดว่าทำไงจะได้มา

บทที่ 10 สร้างนิสัยในการลงมือทำ - เป็นที่แน่ชัดและรู้กันอยู่แล้วว่า การลงมือกระทำเป็นสิ่งที่สำคัญในการที่จะประสบความสำเร็จ เพราะลำพังแค่ความคิดมันไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในตำแหน่งสำคัญๆ หรือการทำธุรกิจส่วนตัว แม้กระทั่งการแต่งงาน สร้างครอบครัว ถ้าเรามั่วแต่กลัวไม่ลงทำอะไรสักที มันเป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จ ลองทำก่อนแล้วคอยดู!!!

บทที่ 11 วิธีเปลี่ยนความพ่ายแพ้เป็นชัยชนะ - บางครั้งทั้งหมดที่ต้องการสำหรับความสำเร็จคือ คนที่ยืนกรานและไม่เคยคิดจะยอมแพ้ และคุณอย่าลืมว่า "ความเจ็บปวดจะมีค่าก็ต่อเมื่อเราเรียนรู้จากมัน" ไม่ว่าอะไรจะเกิดบอกตัวเองไว้ครับว่า "มีหนทาง"

บทที่ 12 ใช้เป้าหมายช่วยให้คุณโต - ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในโลกนี้ ไม่ได้เกิดมาจากความบังเอิญ แต่มันเป็นเพราะใครบางคนได้คิดและได้จินตนาการเอาไว้แล้ว คุณเองก็ต้องมีเป้าหมายในชีวิตของคุณเอง ไม่ใช่ว่า คุณจะเปลี่ยนงาน แต่ตัวคุณเองก็ยังบอกไม่ได้ว่า เปลี่ยนเพื่ออะไร แค่เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นเหรอครับ จริงๆแล้วคุณควรมีเป้าหมายด้วยว่า ในอีก 10 ปีคุณต้องการเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้กำหนดทิศทางในการดำเนินชีวิตถูกต้อง ต่อจากนั้น เราก็ต้องกำหนดเป้าหมายระยะสั้นด้วยนะ เพื่อที่จะได้เห็นความสำเร็จระหว่างที่เราเดินทาง

บทที่ 13 วิธีที่จะคิดเหมือนกับเป็นผู้นำ - ข้อนี้จะคล้ายๆกับข้อที่ 9 คือ ตำแหน่งผู้นำนั่น คุณจะถูกคนรอบข้างยกคุณขึ้นไป ในบทที่นี้จะลงรายละเอียดเพิ่มเติมครับ

บทที่ 14 ใช้ความมหัศจรรย์ของการคิดใหญ่ ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่สุดของชีวิต - บทสุดท้ายจะมาย้ำเตือนให้คุณ เพราะว่าในการเดินทางของคนคิดใหญ่จะต้องเจออุปสรรคแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณต้องคนคิดใหญ่ และขอจบการเล่าเรื่องจาก หนังสือคิดใหญ่ไม่คิดเล็ก ด้วยคำพูดของลิเลียส ไซรัส
"คนฉลาดจะเป็นเจ้านายของจิตใจเขา คนโง่จะเป็นทาส"


หลังจากอ่านจบไปสักพัก ผมก็เขียนสิ่งที่ยังคงคิดถึงเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้นะครับ ดูได้ที่นี้เลย

ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ ที่อ่านจนมาถึงตรงนี้ :)

No comments:

Post a Comment

Followers

Tags